สืบสานมนตราแห่งสุดยอดวิชาทางโภคทรัพย์ที่มีความศักดิ์สิทธิ์และถูกกล่าวขานเป็นตำนานแต่ครั้งโบราณกาลจวบจนปัจจุบันนามว่า “ตะกรุดน้ำออกบ่อซึมทราย” เพื่อให้คนที่ถวิลหาความร่ำรวยโชคลาภเงินทองได้บูชากัน ตะกรุดน้ำออกบ่อซึมทรายนี้ จะส่งผลให้ทรัพย์สินซึมออกมาไม่รู้จบไม่รู้สิ้นดั่งน้ำออกบ่อซึมทราย ใครมีทรัพย์น้อยก็จะมีมากขึ้นจนประทังชีวิตได้อย่างไม่ลำบากและลืมตาอ้าปากได้อย่างมั่นคง ใครมีทรัพย์มากก็จะยิ่งมั่งมีมากขึ้นจนกอบโกยแทบไม่ทัน สามารถนำตะกรุดน้ำออกบ่อซึมทรายนี้ไปฝังไว้ในกระถางธูปหรือกระถางต้นไม้หน้าบ้านและร้านค้าทั้งสองฝั่งซ้ายขวา จะเรียกคนเรียกลูกค้าเข้ามาจับจ่ายใช้สอยกันอย่างไม่ลืมหูลืมตาเลยทีเดียว
เดิมทีมนต์ออกบ่อซึมทรายนั้น เป็นหนึ่งใน 128 มนต์เก่าแก่โบราณอันวิเศษของแม่พันธุรัตน์ที่แม่พันธุรัตน์(แม่นางโกย)จะใช้ในการควบคุมบ่อเงิน และบ่อทองภายในวังของท่าน ที่น่าอัศจรรย์คือบ่อทั้งสองจะมีน้ำเงินน้ำทองไหลซึมออกมาตลอดเวลาไม่มีหมดและไม่มีวันแห้ง ตามตำนานได้เล่าไว้ว่าพระสังข์ทองก็เคยได้ชุบตัวที่บ่อเงินบ่อทองนี้เช่นกัน
คนโบราณสมัยก่อนจะมีภูมิปัญญาในการหาแหล่งน้ำไว้ใช้สอยกัน เช่นการตักน้ำจากบ่อซึมทราย เพียงขุดตื้นๆก็จะเจอน้ำที่ซึมออกมาออกมาเรื่อยๆโดยไม่ต้องลำบาก ตักเท่าไหร่ก็ไม่มีวันหมด จนเกิดเป็นสำนวนที่ว่า “น้ำซึมบ่อทราย” ซึ่งหมายถึงสิ่งที่ตักตวงได้ไม่มีวันหมดสิ้น ค่อยเป็นค่อยไปหาได้อยู่เรื่อยๆ หรือมีโชคลาภเงินทองเข้ามาอยู่ตลอดเสมือนหนึ่งน้ำที่ซึมออกมาจากบ่อทรายถ้าเอาขันไปตักน้ำก็จะแห้งไปซักพักน้ำก็จะซึมกลับมาเหมือนเดิมฉันใดฉันนั้น
พระอาจารย์ได้จัดสร้างตะกรุดน้ำออกบ่อซึมทรายนี้ขึ้นอีกครั้งหนึ่ง เหตุเพราะลูกศิษย์ที่เคยได้ไปบูชานั้นต่างก็มีกินมีใช้มากขึ้นทุกคน เรียกได้ว่าผ่านการทดสอบแล้วว่ามีประสิทธิภาพจริงตามตำราทุกประการ เป็นเหตุให้วัตถุมงคลแม่นางโกยทุกรุ่นจะต้องมีชนวนแผ่นยันต์น้ำออกบ่อซึมทรายนี้ผสมเป็นมวลสารอยู่ พระอาจารย์ได้ใช้แผ่นโลหะชนวนที่เหลือจากรุ่นก่อนมาผสมกับเงินแล้วจึงรีดเป็นแผ่นก่อนจะนำมาจารอักขระทีละดอก นอกจากนี้ตะกรุดน้ำออกบ่อซึมทรายชุดนี้ยังต้องมีเคล็ดลับพิเศษในการสร้างด้วย กล่าวคือจะสังเกตุเห็นได้ว่าตะกรุดนั้นมีขนาดเล็ก เพราะจะต้องทำการพับแผ่นยันต์ก่อนม้วนเป็นตะกรุด ถือเป็นเคล็ดลับเฉพาะของยันต์นี้ ถ้าม้วนเป็นตะกรุดโดยไม่ได้พับก่อน เสมือนว่าเรียกแต่ทรัพย์เรียกแต่ลาภมา แต่ทรัพย์เหล่านั้นจะอยู่ไม่นาน แต่ในทางกลับกันถ้าพับก่อนแล้วค่อยม้วนเป็นตะกรุด จะเสมือนว่าเรียกทรัพย์เรียกลาภมา ทรัพย์เหล่านั้นจะอยู่ได้นานเพราะว่าถูกพับเก็บสะสมไว้ ทำให้เก็บเงินอยู่ไม่รั่วไหล มีแต่เข้าไม่มีออกเลย ดั่งน้ำซึมบ่อทรายที่ไม่ว่าจะเทน้ำลงไปเท่าไหร่ก็ไม่มีล้นนั่นเอง
หลังจากพับและม้วนเป็นตะกรุดเสร็จแล้วพระอาจารย์ยังได้จารอักขระสายพระปัจเจกบนตะกรุดทุกดอก แล้วจึงนำไปปลุกเสกโดยนำ เหรียญเจ้าสัว ของหลวงปู่บุญ วัดกลางบางแก้ว ตำนานแห่งเหรียญที่เช่าหากันหลักล้าน มาร่วมปลุกเสกเทียบพลังด้วย เพื่อให้บังเกิดอิทธิคุณทางโชคลาภเงินทองเพิ่มพูนขึ้นเป็นทวี ผู้ที่ได้ตะกรุดน้ำออกบ่อซึมทรายนี้ไปบูชาจะได้เป็นเจ้าสัวมั่งมีเงินทองในเร็ววัน
=========
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น
หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น